รับขายฝากบ้าน ที่ดิน คอนโด ดีกว่าการจำนองอย่างไร วันนี้เรามีตอบให้

สำหรับผู้ที่กำลังต้องการหาเงินใช้แบบเร่งด่วน หรือมีความต้องการใช้เงินภายในระยะเวลาไม่กี่วัน หลายคนพบว่าการนำทรัพย์สินที่มีค่านั้นไปจำนองอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การจำนองไม่ใช่วิธีการเดียวที่จะให้ได้มาซึ่งเงินที่คุณต้องการ เพราะยังมีการรับขายฝากซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญสำหรับการหาเงินมาใช้แบบเร่งด่วนอีกด้วย แล้วการฝากขายแตกต่างจากการจำนองอย่างไรกันล่ะ วันนี้เราจะมาอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจไปพร้อมกัน  

การรับขายฝาก แตกต่างจากการ จำนอง อย่างไร? 

การรับขายฝาก คือการที่ตัวผู้ขาย ซึ่งในที่นี้เราเรียกว่า “ผู้ฝากขาย” ทำการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินของตัวเองไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ ไปให้กับผู้ซื้อ หรือที่เราเรียกกันว่า “ผู้ซื้อฝาก” โดยทำการตกลงเซ็นสัญญากันว่า ผู้ขายสามารถไถ่ถอนทรัพย์สินของตัวเองกลับคืนมาได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้นหากผู้ฝากขายไม่มาชำระเงินตามที่ตกลงกันเอาไว้แล้ว กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น ๆ จะตกเป็นของผู้ซื้อทันที  

นอกจากนี้ราคาขายฝากหรือสินไถ่จะต้องถูกกำหนดตามกฎหมายเอาไว้อย่างชัดเจน โดยผู้ขายฝากนั้นจะสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี และในกรณีที่ที่ดินพื้นนั้นเป็นที่ดินเพื่อการเกษตรหรือการอยู่อาศัยแล้วละก็ ผู้ซื้อและผู้ฝากขาย จะต้องไปทำหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน รวมไปถึงการกำหนดราคาขายฝากบวกกับผลประโยชน์ค่าตอบแทนไม่เกิน 15 % ต่อปีอีกด้วย  

ส่วนการจำนองนั้น คือการที่ ผู้จำนอง นำทรัพย์สินของตนเองไปตราโดยไม่ส่งมอบให้กับ ผู้รับจำนอง เพื่อใช้เป็นหลักค้ำประกันในการชำระหนี้สิน โดยการจำนองนั้นจะต้องทำสัญญาจำนองให้ชัดเจน และต้องนำสัญญาดังกล่าวไปจดต่อหน้าเจ้าพนักงานกรมที่ดินหากไม่มีการจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ถือว่าการจำนองนั้นเป็นโมฆะทันที ในกรณีที่เป็นสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์นั้น ต้องทำหนังสือจดทะเบียนกับสำนักงานเขตที่ดินที่รับผิดชอบ  

จุดแตกต่างของการรับขายฝาก และการจำนองนั่งก็คือ ผู้จำนองจำนองจะไม่ต้องมอบทรัพย์สินนั้นให้กับผู้รับจำนอง และกรรมสิทธิ์ยังตกเป็นของผู้จำนอง หากครบกำหนดแล้วยังไม่มีการชำระหนี้ตามสัญญา ผู้รับจำนองสามารถฟ้องต่อศาล เพื่อนำกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นไปขายทอดตลาดต่อไปได้ แต่การขายฝากนั้นหากผู้ฝากขายไม่มาชำระหนี้ตามกำหนดสัญญาแล้วละก็ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นจะตกเป็นของผู้ซื้อฝาก และสามารถนำทรัพย์สินดังกล่าวขายทอดสู่ตลาดได้ทันทีโดยไม่ต้องฟ้องศาลให้เสียเวลา